“เซซามิน” และ “แอนโทไซยานิน” สองคำฮิตที่เราได้ยินกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากทั้งสองชนิดเป็นชื่อของสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้จากธรรมชาติ สารทั้งสองมีส่วนช่วยลดอุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็ง , ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่จะช่วยให้ดูสดใสอ่อนกว่าวัย เป็นแหล่งสำคัญของแคลเซียม ,วิตามินและกรดไขมันที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และที่สำคัญแหล่งที่มาของสารทั้งสองได้มาจากอาหารราคาถูกที่หาได้ง่ายทั่วไปนั่นก็คืองาดำ และ ข้าวสีนิลนั่นเอง ไม่ต้องแปลกใจไปว่าธัญพืชที่หาได้ง่ายและหน้าตาไม่ชวนรับประทานสักเท่าไหร่จะเป็นแหล่งที่มาของสารต้านอนุมูลอิสระที่ล้ำค่าทั้งสองจริงหรือ แล้วจะรับประทานอย่างไรให้อร่อยจูงใจที่จะรับประทานต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายในระยะยาว สำหรับคำว่า “เซซามิน” และ “แอนโทไซยานิน” ที่ว่าเป็นคำฮิตนั้น ก็เนื่องมาจากว่าในปัจจุบันหลายต่อหลายบริษัทได้ใช้คำทั้งสองคำมาเป็นจุดขายในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนที่มีส่วนประกอบของงาดำและข้าวสีนิลว่าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หากบริโภคแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์ของตน และในผลิตภัณฑ์ที่นิยมผสมงาดำ และ ข้าวสีนิลลงไปเพื่อง่ายต่อการบริโภคนั่นก็คือ “นมถั่วเหลือง” นั่นเอง เพราะนอกจากสรรพคุณที่โดดเด่นส่วนตัวที่มีในนมถั่วเหลืองอยู่แล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแคลเซียมสูง บำรุงผิว ไม่มีไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งง่ายต่อการบริโภค รสชาติเป็นที่นิยมคุ้นเคยทั้งเลยและผู้ใหญ่ในทุกเพศ ทุกวัยแล้ว การหยิบยกเอาข้อดีเพิ่มเติมของงาดำและข้าวสีนิลที่ผสมเพิ่มเข้าไปแล้วมาช่วยเพิ่มจุดขายให้กลายเป็นนมถั่วเหลืองคุณภาพสูง เพิ่มจุดเด่นมีสารต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยลดริ้วรอยจากความเครียดทั้งหลาย จึงทำให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคและก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากปรากฏคำว่า “เซซามิน” หรือ “แอนโทไซยานิน” ในบทสนทนาของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา พ่อบ้าน แม่บ้านรวมถึงคนทำงานทั้งชายและหญิงหรือคนทั่วๆไปที่รักและใส่ใจในสุขภาพที่มองหาสิ่งดีดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย คำตอบของพวกเค้าเหล่านั้นคงหนีไม่พ้น นมถั่วเหลืองที่มีส่วนผสมของงาดำและข้าวสีนิลเป็นแน่
