วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สวยได้ด้วยอาหารเสริมจริงหรือ

        อาหารเสริม คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานเพื่อเสริมการรับประทานจากอาหารหลัก อยู่ในรูปของเม็ด เกล็ด ผง แคปซูล ของเหลว หรือในรูปลักษณ์อื่นๆ ที่ใช้รับประทานโดยตรงเสริมการรับประทานอาหารหลักตามปกติทุกวันของคนปกติ และเพื่อเป็นการปัองกันการเกิดโรคต่างๆ ปัจจุบัน "อาหารเสริม" เป็นสิ่งหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อวงการความสวยความงาม เพราะเข้ากับชีวิตอันเร่งรีบของสาว ๆ แล้วยังสร้างความเชื่อว่าสามารถทำให้สวยได้เร็วมากกว่าวิธีอื่น ๆ
        สาว ๆ ยุคใหม่เลือกที่จะทานอาหารเสริมแทนการออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คืออยากขาว หน้าใส หุ่นดี อาหารเสริมเพื่อความสวยสามารถพบได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป มีทั้งราคาถูกไปจนถึงแพง มีทั้งแบบผง น้ำ แคปซูนแล้วแต่ยี่ห้อว่าเน้นจุดเด่นทางด้านใด แต่เมื่อทานเข้าไปแล้วเกิดผลหรือไม่เราลองมาศึกษาดูค่ะ

- ALA (อัลฟาไลโปอิก แอซิด)
     เชื่อกันว่า : ตัวช่วยเพิ่มความขาวยิ่งกินคู่กับกลูต้าไธโอนยิ่งเห็นผลเร็วขึ้นสองเท่า เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด
     เรื่องจริง : อาหารเสริม ALA ดังมากในแถบยุโรปและเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังแพร่เข้ามาในบ้านเรา สาร ตัวนี้จัดเป็น Universal Antioxidant ช่วยบำรุงและปกป้องผิวพรรณจากสภาวะภายนอก และช่วยเพิ่มระดับของการสร้างสารกลูต้าไธโอนในร่างกายได้ (แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องกันคู่กันนะ) นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า ALA มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้นและสามารถชะลอการเสื่อมของ เส้นประสาทในผู้ป่วยเหวานได้ด้วย
     ข้อควรระวัง : ALA พบได้ในผักสีเขียวเข้ม ๆ และเครื่องในสัตว์ แต่มีปริมาณน้อยมาก จึงนิยมกินในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า แต่ควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน หากรับโดสสูงเกินไป อาจคลื่นไส้และอาเจียนได้

-คอลลาเจน
     เชื่อกันว่า : กินคอลลาเจนแล้วผิวจะเด้ง เนียนนุ่ม และขาวใสมากขึ้น ยิ่งกินมากยิ่งดี
     เรื่องจริง : คอ ลลาเจนก็คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่ที่นิยมนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมก็คือเนื้อปลา เพราะเชื่อว่าเป็นคอลลาเจนคุณภาพดี มีกรดอะมิโนคล้ายของมนุษย์มากที่สุดกินแล้วจะช่วยในเรื่องเสริมโครงสร้าง ความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวนุ่มขึ้นได้ แต่ไม่ได้มีสรรพคุณในเรื่องของความขาวกระจ่างใส
     ข้อควรระวัง : วัน หนึ่ง ๆ ร่างกายเรารับคอลลาเจนได้เพียงประมาณวันละ 3,000-5,000 มิลลิกรัม และ อย. ก็กำหนดให้กินได้เต็มที่ไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัมเท่านั้น การกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดยูรีน (ของเสียจากการย่อยโปรตีน) สะสม ซึ่งเป็นอันตรายต่อไต

-แอล-คาร์นีทีน
     เชื่อกันว่า : ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ทำให้ผอมลงและสัดส่วนกระชับขึ้นได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกาย
     เรื่องจริง : แอล-คาร์นีทีนเป็นเหมือนสายพานที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงเอากรดไขมันผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่ไมโทคอนเดรียของเซลล์เพื่อเผาผลาญ ซึ่งสายพานนี้จะเคลื่อนที่ได้ ก็ต่อเมื่อมีการออกกำลังกายร่วมด้วยเท่านั้น อาจจะบอกว่าแอล-คาร์นีทีนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้การออกกำลังกาย เห็นผลเร็วขึ้นก็ได้ แต่หากไม่มีการออกกำลังเลยต่อให้กินจนหมดขวดก็ไม่มีทางผอม
     ข้อควรระวัง : คน ที่มีอาการแพ้ต่ออาหารโปรตีน เช่น ไข่ นม หรือข้าวสาลี ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่เสริมแอล-คาร์นีทีนเป็นอันขาด รวมถึงคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตด้วย

-กลูต้าไธโอน
     เชื่อกันว่า : กินแล้วขาว ยิ่งฉีดยิ่งขาว บางคนก็บอกว่าฉีดดีกว่ากินเพราะเห็นผลเร็วและชัดเจน
     เรื่องจริง : ปกติ ตับของเรามีการสร้างกลูต้าไธโอนอยู่แล้วโดยผ่านการรวมตัวของกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ กลูตามีน ซีสเทอีน และไกลซีน มีหน้าที่กำจัดสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อมีปริมาณกลูต้าไธโอนสูงก็จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิว ทำให้ผิวขาวขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ร่างกายเราก็สามารถดูดซึมกลูต้าไธโอนจากการกินได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่จะสลายกลายเป็นกรดอะมิโนไปหมด
     ข้อควรระวัง : ห้ามฉีดเด็ดขาด ! จริงอยู่ที่การฉีดจะทำให้กลูต้าไธโอนไม่ผ่านระบบย่อย และแสดงผลด้านความขาวได้เต็มที่ แต่หากร่างกายได้รับกลูต้าไธโอนเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ตับก็จะเลิกสร้างสาวตัวนี้ ทำให้ป่วยได้ง่ายและเป็นมะเร็งได้ในที่สุด แถมยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากเทคนิคการฉีดไม่สะอาดและเสี่ยงต่อการช็อกจากแพ้การประกอบในยาฉีดด้วย
ก่อนที่เราจะรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็ควรที่จะต้องรู้จักว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นช่วยในเรื่องใด และควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นก็อาจเกิดโทษและสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานเพื่อความปลอดภัย ต่อชีวิตของตัวท่านเองด้วย

ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการชะลอวัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น